“คุณภาพทางด้านเสียงของ Beolab 50 เป็นสิ่งที่คุ้มค่าพอที่จะกล่าวถึงในทุก Position ของตัวมันเอง Jakob Dyreby ได้พูดเพิ่มเติมไว้ว่า “พวกเราอยู่ในจุดสูงสุด ณ ที่แห่งนี้และการใช้ความรู้จากรุ่นเรือธงของเราอย่าง Beolab 90 ของเราในแง่ของพลัง ความชัดเจนและความแม่นยำ เราประสบความสำเร็จเป็นอย่างยิ่งและด้วยการจัดวางชุดลำโพงภายในอย่างชาญฉลาดทำให้เราสามารถออกแบบงานที่สร้างสรรค์และยอดเยี่ยมได้อีกด้วย”
เทคนิคลับนั้นก็คือการนำชิ้นส่วนทั้งหมดเข้ามาใส่ในตู้ Cabinet เช่นเดียวกับการปล่อยความร้อนและทำให้บรรยากาศภายในเกิดการเคลื่อนตัวไปมาเพื่อวัดค่าและนี่คืองานของ Søren Jørgensen “มันเปรียบเสมือนเป็นการเล่นต่อภาพที่ยิ่งใหญ่เพราะต้องมีการเดินสายไฟที่มีความซับซ้อนเป็นอย่างมากเพื่อประกอบมันเข้าด้วยกัน ดังนั้นขั้นตอนการออกแบบจึงต้องอาศัยกระบวนการจดจำ ทำซ้ำและทดสอบอยู่หลายครั้ง เพราะการกระทำแต่ละอย่างนั้นจะส่งผลต่อกันและกัน ดังนั้น เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจที่ทุกส่วนนั้นมีส่วนร่วมในการผลิต”
Jakob Dyreby กล่าวว่า “ทุกการตัดสินใจย่อมมีผลต่อเสียงที่ออกมา ซึ่งหมายความว่าจะมีการทดสอบในส่วนของแผนก Acoustics ภายหลัง เป็นเรื่องที่ดีที่เราได้ทำการเรียนรู้อะไรหลายๆ อย่างจาก Beolab 90 ที่เราสามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ซึ่งมันไม่ได้เพียงแค่ช่วยให้เราประหยัดเวลาเพียงเท่านั้น แต่ยังส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ตัวถัดไปนั้นมีความเหนือระดับมากยิ่งขึ้น”
Kresten Bjørn Krab-Bjerre กล่าวว่า “ความรู้ของเราเกี่ยวกับเสียงภายในห้องที่เราทำการทดลองส่งผลให้การทดลองนั้นมีความก้าวกระโดดเป็นอย่างมากด้วย Beolab 90 และ Beolab 50 ซึ่งคุณจะเห็นคุณสมบัติเหล่านี้ผ่านลำโพงตกแต่งบ้านอย่าง Beosound 1 และ Beosound 2 และคุณจะได้เห็นเทคโนโลยีใหม่ๆ ภายใต้ผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ๆ ของเราต่อไป”