หากต้องการสตรีมมิ่งเพลงไปยังลำโพง ให้ใช้แอปพลิเคชันสตรีมมิ่งจากโทรศัพท์หรือแท็บเลตขณะเชื่อมต่อ Wi-Fi ซึ่งคุณมีสามตัวเลือกในการสตรีมมิ่ง ดังนี้
– Beolink Multiroom ต้องใช้แอป Bang & Olufsen
– AirPlay คุณสามารถเปิดใช้งานได้โดยเลือกสัญลักษณ์ AirPlay บนโทรศัพท์หรือแอปสตรีมมิ่ง
– Chromecast คุณสามารถเปิดใช้งานได้โดยเลือกสัญลักษณ์ Chromecast บนโทรศัพท์หรือแอปสตรีมมิ่ง (ต้องใช้แอป Google Home)
คุณมีตัวเลือกในการสตรีมมิ่งและการเชื่อมต่อที่หลากหลายด้วยลำโพง Bang & Olufsen หนึ่งในนั้นคือ Beolink Multiroom ซึ่งเป็นวิธีง่ายๆ ในการเชื่อมต่อผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของ Bang & Olufsen เข้าด้วยกันทั่วทั้งบ้านของคุณเพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การฟังเพลงที่ทรงพลังและเป็นส่วนตัวยิ่งขึ้น
ลำโพงอันเป็นเอกลักษณ์ของยุค 80 ไปจนถึงลำโพงที่รองรับระบบ Wi-Fi ที่ทันสมัยด้วย Beolink Multiroom ทำให้ทุกอย่างทำงานร่วมกันได้อย่างยอดเยี่ยม และให้อิสระแก่คุณในการฟังเพลงไปยังห้องต่างๆในบ้าน
ในการเริ่มต้นใช้งาน Beolink Multiroom คุณจะต้อง
- เสียบลำโพงของคุณ
- ตรวจสอบสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตของคุณ ว่าคุณเชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi ของคุณแล้ว (ผลิตภัณฑ์ Bang & Olufsen ของคุณควรเชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi เดียวกันกับอุปกรณ์ของคุณ)
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Bang & Olufsen และทำตามคำแนะนำเพื่อสร้างโปรไฟล์
- เพิ่มลำโพงของคุณและทำตามคำแนะนำเพื่อเพิ่มไปยังเครือข่ายในแอปพลิเคชัน
- จากนั้น ไปที่แท็บ multiroom แล้วกด + เพื่อเลือกลำโพงที่คุณต้องการเล่นเพลง และคุณจะสามารถเริ่มเล่นเพลงบนลำโพงของคุณ
One Touch to Music จะช่วยให้คุณเล่นเพลงได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายโดยไม่ต้องใช้โทรศัพท์ หากต้องการเปิดใช้งานคุณสมบัตินี้ ให้แตะที่ปุ่ม Favorite หรือไอคอนวงกลมที่ด้านบนของลำโพง คุณยังสามารถใช้ Beoremote เพื่อเริ่มเล่นเพลงโปรดของคุณ ซึ่งคุณสมบัตินี้จะใช้งานได้เมื่อลำโพงของคุณได้รับการตั้งค่าในแอปพลิเคชัน Bang & Olufsen
การปรับโหมดเสียงลำโพงของคุณ ให้เริ่มต้นโดยเข้าแอปพลิเคชัน Bang & Olufsen แล้วเลือกลำโพงของคุณ ในโหมดการฟัง ให้ไปที่ Beosonic equalizer และย้ายวงกลมไปยังการตั้งค่าเสียงที่คุณต้องการเช่น warm, bright, relaxed, or energetic คุณสามารถบันทึกการตั้งค่าเป็นโหมดการฟังส่วนตัวเพื่อให้เข้าถึงได้ง่ายในครั้งต่อไป
คุณสามารถเชื่อมต่อลำโพงใหม่กับ Beolink Multiroom โดยใช้แอปพลิเคชัน Bang & Olufsen
- เสียบลำโพงของคุณและรอสักครู่
- ไปที่แอป Bang & Olufsen และทำตามคำแนะนำเพื่อเพิ่มลำโพงหรือเครือข่ายในบ้านของคุณ
- เมื่อเพิ่มแล้ว ลำโพงจะปรากฏในแอปโดยอัตโนมัติ
- ไปที่แท็บ Multiroom และใช้ปุ่ม + เพื่อเริ่มประสบการณ์ Multiroom
ด้วย Beolink Multiroom คุณสามารถเล่นเพลงในห้องอื่นๆได้ หากคุณกำลังฟังเพลงโปรดในห้องนั่งเล่นและต้องการเปิดในห้องนอนด้วย สามารถทำได้ดั้งนี้
- ไปที่แท็บ multiroom ในแอปพลิเคชัน Bang & Olufsen
- กดปุ่ม + ด้านข้างลำโพงในห้องนอนของคุณและเพลงจะเริ่มเล่นในห้องนอนด้วย
- ตอนนี้คุณได้เชื่อมข้อมูลในสองห้องแล้ว
- คุณยังสามารถใช้คุณสมบัติ “Join” บน Beoremote One เพื่อเพิ่มลำโพงในครัวของคุณให้กับประสบการณ์ทางดนตรี
- คุณสามารถค้นหาตัวเลือก “Join” ได้ภายใต้ปุ่ม “เพลง” บน Beoremote One
Beolink Multiroom หากเปิดเพลงอยู่ในห้อง คุณสามารถเปิดกับลำโพงในอีกห้องหนึ่งได้ ลำโพงบางตัวของเรามีปุ่ม “เล่น” ที่ให้คุณเข้าร่วมได้ด้วยปลายนิ้ว คุณยังสามารถใช้ Beoremote One เพื่อเปิดใช้งานคุณสมบัตินี้ได้โดยกดที่ ‘Music’ แล้วกด ‘Join’ ในเมนูเพื่อสัมผัสประสบการณ์ทางดนตรีแบบ Synchronized ในสองห้อง คุณสามารถเข้าร่วมประสบการณ์ทางดนตรีจากหลายห้องได้ ลำโพงแต่ละตัวมีตัวควบคุมระดับเสียงแยกต่างหาก และคุณสามารถปิดลำโพงในห้องหนึ่งได้โดยไม่กระทบต่อการเล่นเพลงในห้องอื่น ๆ
โปรดทราบว่าคุณสมบัติเข้าร่วมใช้งานได้สำหรับการสตรีมเพลงด้วย Beolink Multiroom เท่านั้น หากคุณกำลังสตรีมเพลงด้วย Airplay 2 หรือ Chromecast จะไม่สามารถทำได้
ลำโพงของ Bang & Olufsen มีคุณสมบัติ ‘JOIN’ ทั้งหมด คุณสามารถเปิดใช้งานฟังก์ชัน ‘JOIN’ จากห้องใดก็ได้ โดยการใช้คุณสมบัตินี้ คุณจะต้องเข้าร่วมในแหล่งที่มาที่เปิดใช้งานล่าสุดในการตั้งค่า
หากครอบครัวของคุณเพลิดเพลินกับเพลย์ลิสต์ในห้องนั่งเล่น คุณสามารถฟังเพลงเดียวกันในห้องครัวได้ หากคุณเปลี่ยนแหล่งที่มาในห้องใดห้องหนึ่ง ครั้งต่อไปที่คุณ “JOIN” คุณจะได้รับการเชื่อมต่อใหม่ คุณจะ ‘JOIN’ แหล่งที่มาที่เลือกหรือเปลี่ยนแปลงล่าสุดเสมอ
คุณสามารถตั้งค่า Beolink Multiroom ได้ง่ายๆ โดยเลือกจากแอปพลิเคชัน Bang & Olufsen
- ไปที่แท็บ Multiroom ในแอปพลิเคชัน Bang & Olufsen
- กดปุ่ม + ข้างลำโพงที่คุณต้องการเพิ่ม จากนั้นเพลงจะเริ่มเล่นในลำโพงที่คุณเลือกด้วย
คุณสามารถปิดเพลงในห้องพักทุกห้องได้ด้วยการกดปุ่มเปิด/ปิดเพียงปุ่มเดียว เราเรียกสิ่งนี้ว่า all-standby feature และเป็นเอกลักษณ์ของ Bang & Olufsen ซึ่งฟีเจอร์นี้สามารถใช้งานได้อย่างสะดวก เมื่อคุณจะออกจากบ้านและต้องการปิดทุกอย่างในห้องพักทุกห้องของคุณ สามารถเรียนรู้วิธีเปิดใช้งานฟังก์ชัน all-stand-by ในคำถามที่พบบ่อยด้านล่าง
All-standby feature เป็นคุณสมบัติเฉพาะที่จะปิดอุปกรณ์ Bang & Olufsen ทั้งหมดในบ้านจากที่เดียว ข้อดีคือคุณไม่ต้องเดินไปรอบ ๆ บ้านและปิดลำโพงทุกตัว
บน Beosound Balance/Level/Emerge และ Beolab 28
บน Beoremote One กดปุ่ม ‘Standby’ ค้างไว้ 1.5 วินาที
บน Beoremote Halo ปัดลงไปที่หน้า ‘ Standby ‘ และเลือก ‘ All-standby ‘
บน Beosound Essence Remote กดปุ่ม ‘Mute’ ค้างไว้สามวินาที
ในลำโพง Connected Audio ที่เปิดตัวก่อนปี 2020
กดปุ่มวงกลมด้านบนของลำโพงค้างไว้ 1.5 วินาทีจะเป็นการเปิดใช้งานโหมดสแตนด์บายทั้งหมด
บน Beoremote One กดปุ่ม ‘Standby’ ค้างไว้ 1.5 วินาที
All-standby ยังมีให้ใช้งานผ่านแอปพลิเคชัน Bang & Olufsen
ใช่ Beolink Multiroom มี ‘โหมดปาร์ตี้’ ให้ใช้งาน หากคุณต้องการขยายประสบการณ์เสียงไปยังทุกห้อง คุณสามารถทำตามขั้นตอนเหล่านี้
- ในแอปพลิเคชัน Bang & Olufsen ไปที่แท็บ multiroom
- กดปุ่ม + สำหรับลำโพงทั้งหมดที่คุณต้องการเพิ่ม ‘โหมดปาร์ตี้’ สิ่งนี้จะขยายประสบการณ์ไปยังห้องใดก็ได้ที่มีลำโพง
ได้ เพียงไปที่ห้องอื่นและเปิดใช้งานจากการเชื่อมต่ออื่นๆ การดำเนินการนี้จะไม่ส่งผลต่อแหล่งที่มาที่เล่นในห้องอื่น