ค้นหา Beosound A9 5th Gen คำถามที่พบบ่อย
การเริ่มต้นใช้งาน & การใช้งานประจำวัน
สามารถใช้บลูทูท และ Line-in ได้หาก Beosound A9 5th Gen ไม่ได้เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต
- เชื่อมต่อกับเครือข่ายของคุณ
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าอุปกรณ์และลำโพงของคุณเชื่อมต่อกับเครือข่ายเดียวกัน
2. การเล่นเพลง
- เปิดแอป Spotify และเริ่มเล่นเพลงกดไอคอนลำโพงที่ด้านล่างของหน้าจอ
3. เลือกลำโพง
- เลือกลำโพง Spotify Connect ของคุณในรายการ
Beosound A9 5th Gen รองรับผ่านแอป Bang & Olufsen :
– วิทยุ Bang & Olufsen
– Deezer
– DLNA
นอกจากแหล่งที่มาในตัวแล้ว คุณยังมีตัวเลือกในการใช้:
– Beolink Multiroom
– AirPlay 2
– Chromecast
– Spotify Connect
– Tidal Connect
– บลูทูท
– แหล่งที่มาของบุคคลที่สามผ่าน Line-in (โดยใช้อะแดปเตอร์แจ็ค USB-C ไป 3.5 มม.)
แอป Bang & Olufsen เสนอตัวเลือกต่าง ๆ เพื่อเพลิดเพลินกับเสียงเพลงและปรับแต่งประสบการณ์ของคุณ โปรดทราบว่าบางผลิตภัณฑ์ไม่รองรับคุณสมบัติทั้งหมด
คุณสามารถดาวน์โหลดแอป Bang & Olufsen ได้ที่นี่ :
- เพลง
- มีวงดนตรีและเพลย์ลิสต์ให้เลือกมากมาย คุณลักษณะนี้ต้องใช้บัญชีพรีเมียมของ Deezer
2. วิทยุ
- คล้ายกันกับเพลง มีสถานีวิทยุให้เลือกมากมาย
3. Multiroom
- Multiroom ช่วยให้คุณสามารถเล่นเพลงพร้อมกันได้โดยใช้ Beolink Multiroom เพียงแค่เปิดเพลงจากลำโพงเครื่องเดียวแล้วกดไอคอน + เพื่อเพิ่มห้องที่คุณต้องการเล่นเพลง
4. โหมดในการฟัง
- ในหน้าผลิตภัณฑ์ คุณสามารถเข้าถึงคุณสมบัติ Beosonic
- เพียงเลือกผลิตภัณฑ์ของคุณในรายการผลิตภัณฑ์เพื่อเข้าถึงตัวเลือกโหมดการฟังต่าง ๆ
5. การอัปเดทซอฟต์แวร์
- ซอฟต์แวร์ของผลิตภัณฑ์อัปเดตได้โดยใช้แอป Bang & Olufsen ซึ่งช่วยให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์ของคุณนั้นมีคุณสมบัติล่าสุดอยู่เสมอ
6. ฝ่ายสนับสนุน
- คุณสามารถติดต่อทีมบริการลูกค้าของเราได้โดยตรงจากแอป โดยแตะที่ “การสนับสนุน” ในส่วน “การตั้งค่า”
- เลือกผลิตภัณฑ์และคำถามที่มีปัญหาและป้อนรายละเอียดของการสอบถามและทีมบริการลูกค้าของเราจะพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อช่วยเหลือคุณ
คุณสามารถทำการควบคุมพื้นฐานได้โดยตรงที่ด้านบนของ Beosound A9 5th Gen เช่น เพิ่มและลดระดับเสียง แทร็กถัดไปหรือก่อนหน้า และเข้าร่วม (Beolink Multiroom)
การเชื่อมต่อ Beoremote One BT หรือ Beoremote Halo จะทำให้คุณสามารถเปิดใช้งานปุ่มโปรด (MyButtons) ซึ่งคุณสามารถจัดเก็บสถานีวิทยุจาก Bang & Olufsen Radio และเพลย์ลิสต์จาก Deezer หรือ Spotify
คุณยังสามารถเชื่อมต่อ Beosound Essence Remote, Beoremote Halo, Beoremote One BT หรือ Beosound Essence Remote กับ Beosound A9 5th Gen ได้อีกด้วย โปรดทราบว่า MyButtons หรือการเลือกแหล่งที่มาไม่สามารถทำได้โดยใช้ Beosound Essence Remote
คุณยังสามารถควบคุมฟังก์ชันพื้นฐานและตั้งค่าปรับแต่งเสียงส่วนตัวได้โดยใช้แอป Bang & Olufsen
ใช้แอปพลิเคชัน Bang & Olufsen เพื่อกำหนดค่าและเชื่อมต่อ Beosound A9 5th Gen กับเครือข่ายของคุณ
- ติดตั้งขา
- เปิดกล่องและนำสามขาออกมา ขาจะมีป้ายบอกตำแหน่ง วางลำโพงไว้ในบรรจุภัณฑ์ขณะติดตั้งขา
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ติดตั้งขาอย่างแน่นหนาก่อนที่จะวางลำโพงในตำแหน่งที่ต้องการ
- เชื่อมต่อกับแหล่งจ่ายไฟหลัก
- วางลำโพงในตำแหน่งที่คุณต้องการตั้งค่า เชื่อมต่อสายไฟหลัก
- รอประมาณ 1-2 นาทีในขณะที่ไฟแสดง Play/Pause กระพริบเป็นสีขาว
- หลังจากไฟแสดงสถานะ Play/Pause เปลี่ยนเป็นสีส้มและได้ยินเสียงเตือน แสดงว่าลำโพงพร้อมสำหรับการตั้งค่า
3. ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Bang & Olufsen
- หากต้องการตั้งค่าลำโพงและรับประสบการณ์ Bang & Olufsen อย่างเต็มรูปแบบ ให้ดาวน์โหลดแอป Bang & Olufsen คุณสามารถปรับแต่งประสบการณ์ของคุณและเข้าถึงคุณสมบัติใหม่ รวมถึงการสนับสนุนผลิตภัณฑ์ได้จากแอปนี้
คุณสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Bang & Olufsen ได้ที่นี่ :
- เมื่อคุณเปิดแอปพลิเคชัน Bang & Olufsen ระบบจะขอให้คุณสร้างบัญชีผู้ใช้ เมื่อเข้าสู่ระบบแล้ว ให้แตะ + เพื่อตั้งค่าลำโพงใหม่
- ทำตามคำแนะนำที่ให้ไว้เพื่อดำเนินการตั้งค่าให้เสร็จสิ้น
หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Beolink Multiroom เลือกหนึ่งในบทความด้านล่าง:
มีแหล่งข้อมูลใดบ้างที่รองรับในการตั้งค่า Beolink Multiroom
ฉันจะเริ่มเล่นเพลงบนลำโพงได้อย่างไร
ฉันจะใช้ Spotify Connect กับ Beolink Multiroom ได้อย่างไร
ฉันจะใช้แอปพลิเคชัน Bang & Olufsen สำหรับ Beolink Multiroom ได้อย่างไร
ฉันจะเชื่อมต่อเพลงจากลำโพงหนึ่งไปยังอีกลำโพงหนึ่งได้อย่างไร
ลำโพงของฉันสามารถทำงานร่วมกับลำโพงตัวอื่น ๆ อย่างต่อเนื่องได้อย่างไร
ฉันจะใช้รายการโปรดบนลำโพงได้อย่างไร
ฉันสามารถใช้รีโมตคอนโทรลใดกับลำโพงของฉันได้บ้าง
ฉันจะเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ Bang & Olufsen ทั้งหมดเป็นโหมดสแตนด์บายได้อย่างไร
ฉันจะสตรีมเพลงผ่าน AirPlay โดยทำให้เป็น Beolink Multiroom ได้อย่างไร
Wi-Fi และการเชื่อมต่อ
การเชื่อมต่อ Line-in มีไว้สำหรับใช้กับแหล่งสัญญาณเสียงเท่านั้น
จอแสดงผลผู้ใช้งาน :
- เปิด Beosound A9 5th Gen
- ยืนอยู่ด้านหน้าผลิตภัณฑ์ กดด้านขวามือ (“ถัดไป”) ค้างไว้ประมาณสองวินาทีเพื่อเปิดใช้งานการจับคู่ Bluetooth ไฟแสดงสถานะจะเริ่มกระพริบเป็นสีน้ำเงิน และคุณจะได้รับเสียงตอบกลับ Beosound A9 5th Gen ของคุณพร้อมที่จะเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ของคุณแล้ว (โทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต ฯลฯ)
- เปิดการตั้งค่าบลูทูทบนอุปกรณ์ของคุณและจับคู่กับลำโพง
จากแอป Bang & Olufsen :
- เปิด Beosound A9 5th Gen
- เปิดแอป Bang & Olufsen เลือก Beosound A9 5th Gen ไปที่ “การตั้งค่าผลิตภัณฑ์” “อุปกรณ์บลูทูทที่จับคู่” แล้วแตะ “เริ่มจับคู่”
- เปิดการตั้งค่าบลูทูทบนอุปกรณ์ของคุณและจับคู่กับลำโพง
- หากต้องการเชื่อมต่อ Beosound A9 5th Gen กับเครือข่าย Wi-Fi อื่น ให้กดปุ่ม ตั้งค่า ที่ด้านบนของลำโพงเป็นเวลาสองวินาที ไฟแสดงสถานะ Play/Pause จะเริ่มกระพริบเป็นสีส้ม และลำโพงจะไม่สามารถใช้งานได้ในแอป Bang & Olufsen
- ลบลำโพงออกจากรายการสินค้าในแอป Bang & Olufsen แล้วกด + เพื่อเพิ่มอีกครั้ง
- เลือก Beosound 2 3rd Gen และทำตามคำแนะนำบนหน้าจอเพื่อตั้งค่า Wi-Fi
เสียง
Bang & Olufsen Stereo ช่วยให้สามารถตั้งค่าลำโพงที่เหมือนกันสองตัว เป็นคู่เสียงสเตอริโอได้ ในการตั้งค่าเครื่องเสียง Bang & Olufsen โปรดทำตามคำแนะนำนี้ (ตัวอย่าง) :
- การตั้งค่าลำโพงสองตัว
- ลำโพงจะต้องเชื่อมต่อกับเครือข่ายเดียวกันและเพิ่มลงในแอปพลิเคชัน Bang & Olufsen
- ลำโพงต้องเป็นรุ่นและประเภทเดียวกัน
- ลำโพงทั้งสองต้องติดตั้งซอฟต์แวร์รุ่นเดียวกัน
2. เลือกลำโพงตัวแรก
- ในแอป Bang & Olufsen เลือกหนึ่งในลำโพงที่คุณต้องการรวมอยู่ในคู่สเตอริโอ
- เลื่อนลงและเลือกการตั้งค่าเสียง
3. ในเมนูการตั้งค่าเสียง
- เลือกสร้างคู่สเตอริโอ
4. เลือกลำโพงตัวที่สอง
- เลือกลำโพงตัวที่สองสำหรับคู่สเตอริโอ
- เฉพาะรุ่นและประเภทเดียวกันของลำโพงจะปรากฏในรายการ
5. บทบาทของลำโพง
- สามารถเปลี่ยนตำแหน่งซ้ายและขวาได้โดยการกดไอคอนสลับระหว่างลำโพงสองตัว
- กด “ถัดไป” เพื่อสร้างคู่สเตอริโอ
6. ตั้งชื่อคู่สเตอริโอ
- ตั้งค่าชื่อของคู่สเตอริโอ
7. ตั้งค่าสเตอริโอแล้ว
- ตอนนี้ไม่ว่าจะใช้แอปหรือบริการใดลำโพงทั้งสองจะปรากฏเป็นหนึ่งเดียว
- แอป Bang & Olufsen จะแสดงไอคอนเล็ก ๆ ถัดจากรูปภาพผลิตภัณฑ์ เมื่อคุณตั้งค่าลำโพงสองตัวเป็นคู่
Bang & Olufsen Stereo ช่วยให้สามารถตั้งค่าลำโพงที่เหมือนกันสองตัว เป็นคู่เสียงสเตอริโอได้ ในการตั้งค่าเครื่องเสียง Bang & Olufsen โปรดทำตามคำแนะนำนี้ (ตัวอย่าง) :
- เลือกคู่สเตอริโอ
- เปิดแอป Bang & Olufsen
- เลือกคู่สเตอริโอที่คุณต้องการแยก
2. ไปยังการตั้งค่าเสียง
- เลื่อนลงด้านล่างและเลือก “ตั้งค่าเสียง”
3. ในเมนูการตั้งค่าเสียง
- เลือก แก้ไขการจับคู่สเตอริโอ
4. แยกการจับคู่
- เลือก แยกการจับคู่ บริเวณด้านล่าง
5. ยืนยัน
- ยืนยันว่าคุณต้องการแยกลำโพงออกจากการจับคู่ จากนั้นกด ดำเนินการต่อ
- หลังจากนั้นไม่นานคุณจะเห็นลำโพงแต่ละตัวบนแอป Bang & Olufsen
ได้ คุณสามารถใช้แอป Bang & Olufsen เพื่อตั้งค่าขีดจำกัดระดับเสียงที่คุณต้องการในเมนูการตั้งค่าเสียงที่เข้าถึงได้จากหน้าผลิตภัณฑ์ Beosound 2 3rd Gen
- เลือกผลิตภัณฑ์ในแอป Bang & Olufsen
- แตะ “การตั้งค่าเสียง”
- ปรับ “ระดับเสียงสูงสุด” โดยใช้แถบเลื่อน (สามารถตั้งค่าได้ระหว่าง 20-100)
- คุณยังสามารถกำหนดระดับเสียงเมื่อเริ่มต้นจากโหมดสแตนด์บายได้โดยการปรับแถบเลื่อน “ระดับเสียงเริ่มต้น”
- ระดับเสียงเริ่มต้นต้องไม่เกิน 60 เพื่อป้องกันความเสียหายต่อการได้ยิน
Active Room Compensation ช่วยให้ Beosound A9 5th Gen สามารถเทียบเสียงกับบริเวณห้องโดยรอบ เพื่อให้สามารถใช้ตัวกรองในการเพิ่มคุณภาพเสียงตามตำแหน่งในพื้นที่ต่าง ๆ ลำโพงจะเล่นเสียงกว้าง และเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพที่แม่นยำที่สุด โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าห้องเงียบก่อนที่คุณจะเริ่มกระบวน Active Room Compensation
Beosonic เป็นเครื่องมือในแอป Bang & Olufsen ที่ให้คุณปรับแต่งเสียงได้ตามต้องการ อัลกอริทึมเสียงดิจิตอลขั้นสูงที่พัฒนาโดยทีมอะคูสติกของเราช่วยให้คุณสำรวจพื้นที่เสียงต่าง ๆ ได้เพียงแค่เลื่อนวงกลมไปรอบ ๆ หรือขยายให้ใหญ่ขึ้น การตั้งค่าทั้งหมดเหล่านี้สามารถบันทึกเป็นโหมดเสียงส่วนตัวได้ เพื่อให้คุณสามารถเข้าถึงได้อีกครั้งอย่างง่ายดาย
การปรับแต่งใน Beosonic
- เพิ่มหรือลดความกว้างของเสียง (ซูม/หด)
- ย้ายวงกลมเพื่อปรับความสมดุลของเสียง
- บันทึกค่าที่ตั้งไว้ล่วงหน้าของคุณสำหรับการเข้าถึงที่ง่ายในภายหลัง
* สามารถเข้าถึง Beosonic ได้โดยการกดที่ผลิตภัณฑ์สองครั้งที่หน้าแรกแล้วเลือกโหมดเสียงโหมดใดโหมดหนึ่ง
Active Room Compensation จะดำเนินการระหว่างการตั้งค่า Beosound A9 5th Gen ครั้งแรก โดยสามารถปรับเทียบใหม่ได้ เช่น หากลำโพงถูกย้ายไปยังตำแหน่งใหม่ นอกจากนี้ยังสามารถปิดใช้งานตัวกรองที่ปรับเทียบได้อย่างสมบูรณ์
หากต้องการปรับการตั้งค่า Room Compensation ให้เปิดแอป Bang & Olufsen เลือก Beosound A9 5th Gen แล้วไปที่ Sound Settings เลือก Room Compensation
หากการชดเชยห้องเสร็จสิ้นแล้ว คุณจะมีตัวเลือกในการปิด
หากต้องการวัดใหม่ ให้แตะ Re-run เพื่อเริ่มการวัดใหม่
อื่นๆ
ไม่ เราไม่แนะนำให้ซักผ้าด้านหน้าของ Beosound A9 ด้วยเครื่อง เราแนะนำให้ทำความสะอาดด้วยผ้านุ่มบิดหมาด ๆ ชุบด้วยน้ำและผงซักฟอกอ่อน ๆ
ในบางกรณี ความชื้นและอุณหภูมิสูงระหว่างการขนส่งอาจทำให้ผ้าด้านหน้าเกิดรอยย่นได้ สามารถรีดผ้าด้านหน้าด้วยอุณหภูมิต่ำได้
หากจำเป็นต้องรีดผ้าด้านหน้า โปรดหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับเตารีดโดยตรง เพราะอาจทำให้ผ้าเปลี่ยนสีได้ ใช้ผ้าฝ้ายกั้นระหว่างผ้าด้านหน้ากับเตารีด และตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้รีดผ้าจากด้านหลัง อุณหภูมิของเตารีดต้องไม่เกิน 110°C (230°F)
เพื่อให้แน่ใจว่าลำโพงของคุณมีคุณสมบัติและการปรับปรุงล่าสุด การอัปเดตซอฟต์แวร์ระบบอัตโนมัติจะเปิดใช้งานตามค่าเริ่มต้น และนี่คือการตั้งค่าที่แนะนำ
คุณสามารถเปลี่ยนได้ตลอดเวลาในแอป Bang & Olufsen
ฉันเปิดหรือปิดการอัปเดตซอฟต์แวร์อัตโนมัติโดยใช้แอป Bang & Olufsen ได้อย่างไร
ระหว่างการอัปเดตซอฟต์แวร์ ไฟแสดงสถานะผลิตภัณฑ์จะกระพริบเป็นสีเขียว และจะเปลี่ยนเป็นสีขาวทึบเมื่อการอัปเดตเสร็จสิ้น
- หากต้องการรีเซ็ต Beosound A9 5th Gen เป็นค่าเริ่มต้นจากโรงงาน ให้กดปุ่ม ตั้งค่า ที่ด้านหลังของลำโพงเป็นเวลาแปดวินาที ไฟแสดง จะเริ่มกระพริบเป็นสีขาว และลำโพงจะไม่สามารถใช้งานได้ในแอป Bang & Olufsen
- เมื่อเปิดลำโพงแล้ว ไฟแสดง Play/Pause จะกระพริบเป็นสีส้ม แสดงว่าลำโพงพร้อมสำหรับการตั้งค่าแล้ว
- เปิดแอป Bang & Olufsen เพื่อตั้งค่า Beosound A9 5th Gen อีกครั้ง หากเคยตั้งค่าลำโพงในแอป
หากเคยตั้งค่าลำโพงในแอป Bang & Olufsen มาก่อน ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ลบลำโพงออกจากรายการผลิตภัณฑ์ก่อนที่จะเพิ่มอีกครั้ง
เช็ดฝุ่นออกจากพื้นผิวโดยใช้ผ้านุ่มและแห้ง ห้ามใช้น้ำยาทำความสะอาดหรือสเปรย์ทำความสะอาด
ในการขจัดคราบหรือสิ่งสกปรก ให้ใช้ผ้านุ่มชุบน้ำหมาด ๆ ผสมน้ำกับน้ำยาทำความสะอาดอ่อน ๆ เช่น น้ำยาซักผ้า
ระมัดระวังในการทำความสะอาดส่วนที่เป็นไม้ เนื่องจากสิ่งเหล่านี้จะไวต่อความชื้นและผงซักฟอก ขอแนะนำให้ใช้แปรงขนนุ่มปัดฝุ่นออกจากร่อง ในการขจัดคราบหรือสิ่งสกปรกบริเวณจุดสัมผัส สามารถใช้เอธานอลบนผ้านุ่มชุบน้ำหมาด ๆ ได้
คุณมีตัวเลือกต่าง ๆ เพื่อค้นหาหมายเลขประจำเครื่อง :
- บนฉลากบนบรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์
- ในแอป Bang & Olufsen ใต้ “การตั้งค่าผลิตภัณฑ์” – “เกี่ยวกับ” โปรดทราบว่าจำเป็นต้องเพิ่ม Beosound 2 3rd Gen ลงในแอป
- ที่ด้านล่างของผลิตภัณฑ์
ไฟแสดงสถานะอยู่ที่ด้านซ้ายของปุ่มควบคุมระดับเสียงเมื่อมองจากด้านหน้า
สีขาว (นิ่ง) |
เชื่อมต่อกับเครือข่ายพร้อมใช้งาน |
สีขาว (กระพริบช้า ๆ ) |
กำลังเปิดเครื่อง |
สีขาว (กระพริบเร็ว) |
กำลังปรับเทียบเสียงเข้ากับห้อง |
สีขาว (กระพริบเป็นจังหวะ) |
หยุดชั่วคราว |
สีน้ำเงิน (นิ่ง) |
การเชื่อมต่อบลูทูทสำเร็จ |
สีน้ำเงิน (กระพริบช้า ๆ ) |
โหมดจับคู่บลูทูท |
สีแดง (นิ่ง) |
เกิดข้อผิดพลาด (โปรดติดต่อฝ่ายบริการลูกค้า) |
สีแดง (กระพริบช้า ๆ ) |
ข้อผิดพลาดชั่วคราว (เช่น ความร้อนสูงเกินไป) |
สีส้ม (นิ่ง) |
ไม่มีการเชื่อมต่อเครือข่าย การเชื่อมต่อขาดหาย |
สีส้ม (กระพริบช้า ๆ ) |
พร้อมสำหรับการตั้งค่าเครือข่าย |
สีส้ม (กระพริบเป็นจังหวะ) |
กำลังเชื่อมต่อกับเครือข่าย |
สีเขียว (กระพริบเป็นจังหวะ) |
กำลังอัปเดตเฟิร์มแวร์ |
ไมโครโฟน :
ไฟแสดงสถานะอยู่ที่ด้านขวาของปุ่มควบคุมระดับเสียงเมื่อมองจากด้านหน้า
ปิด |
ปิดใช้งาน (ใช้สวิตช์สลับไมโครโฟน) |
สีขาว (นิ่ง) |
เปิดใช้งานไมโครโฟน |
ได้ หากต้องการปิดใช้งานไมโครโฟน ให้กดปุ่มไมโครโฟนที่ด้านหลังลำโพง ไฟแสดงสถานะไมโครโฟนจะดับลงในขณะที่ปิดเสียงไมโครโฟน
โปรดทราบว่าเมื่อปิดไมโครโฟน ลำโพงจะไม่สามารถทำการ Active Room Compensation ได้